Flutter vs React Native: ตัวไหนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ???
Flutter vs React Native: ตัวไหนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ??? บทความนี้จะพูดถึงประสิทธิภาพและคุณสมบัติการปรับแต่งความยืดหยุ่น,ความเร็วและอื่น ๆ บทความทาง Stackpython ก็หวังว่าจะช่วยคุณตัดสินใจได้นะครับว่าจะเลือกใช้อะไร
ถ้าพูดถึงในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือหรือเว็บแอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ใช้ frameworks ต่าง ๆ ในปัจจุบันมีผลสำรวจว่าผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนใหญ่นิยมใช้ Flutter และ React Native เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือมากที่สุด จากข้อมูล Statista พบว่า 42% ของบริษัทขนาดเล็กกำลังใช้แอพพลิเคชั่นมือถือในขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า 30% ของ บริษัทขนาดเล็กกำลังวางแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ซึ่งสามารถทำให้เราเห็นว่าแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ตอนนี้ถือว่าเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด
แล้วอะไรดีกว่ากัน เราทุกคนต่างรู้ว่าทั้งสองแพลตฟอร์มทั้ง Flutter และ React Native ต่างก็มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าหากต้องเลือกหนึ่งในสองเหล่านี้ สำหรับการที่เราจะพัฒนาแอปพลิเคชันนั้นเราก็ควรที่จะรู้ข้อดีและข้อเสียของ frameworks แต่ละแบบ ซึ่งจะช่วยให้เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ บทความนี้ทาง Stackpython จะมาขอพูดถึงประเด็นสำคัญของ Flutter และ React Native ซึ่งอาจจะช่วยให้คุณเลือกใช้งาน ระหว่างFlutter vs React Native ได้ว่าอะไรจะเหมาะสมกับคุณที่สุดครับ
Flutter Vs React Native : ใครจะชนะกันแน่ ??
- React Native
React Native เป็นหนึ่งใน frameworks ในรูปแบบโอเพนซอร์สที่ดีที่สุดที่ใช้ไลบรารีของ JavaScript เพื่อสร้างแอปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์ม ของ Facebook โดยพัฒนาจาก Framwork ของ React
ข้อดีของ React Native คืออะไร
- Offers the native functionalities
- Hot Reload feature is accessible
- Platform-specific code
- Allows Implementation of Native UI components
ข้อเสียของ React Native คืออะไร
- Offers the complex UI
- Non-seamless navigation
- JavaScript does not support decimals; it is one of the major drawbacks.
แอปพลิเคชั่นมือถือยอดนิยมจำนวนมากสร้างขึ้นโดยใช้ React Native framework ตัวอย่าง เช่น
- Business & Telecommunication: Skype
- Social: Facebook
- E — commerce : Artsy
- Finance: Bloomberg
- Entertainment: Vogue
- Flutter
Flutter เป็นหนึ่งในเฟรมเวิร์กโอเพนซอร์ซที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งใช้เทคโนโลยี ภาษา dart เพื่อพัฒนาแอพที่มีประสิทธิภาพสูง Google พัฒนา framework ของ Flutter
ข้อดีของ Flutter คืออะไร
- Utilizes the C++ rendering engine
- Offers the full set of widgets
- Its architecture is based on reactive programming
- Complete SDK
- The applications designed by Flutter supports Android, iOS, Windows, Mac.
ข้อเสียของ Flutter คืออะไร
- Offers limited libraries
- Large application size
- Rely on native tools and technologies to build mobile applications
บริษัท startups หลายแห่งผู้ประกอบการ SMEs และแบรนด์ใหญ่ใช้ Flutter เพื่อสร้างแอพชั้นนำ ตัวอย่างด้านล่าง
- Social: Hookle
- eCommerce: Alibaba
- Utility: Google Ads
- Lifestyle: Reflectly
- Entertainment: Hamilton Musical
- Finance: Birch Finance
- Health and Fitness: Coach Yourself
การเปรียบเทียบระหว่าง Flutter กับ React Native
1. ภาษาโปรแกรม
ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการใช้เทคโนโลยีข้ามแพลตฟอร์มคือความสามารถในการใช้ภาษาการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างแอปพลิเคชันสำหรับ Android และ iOS เรามาดู framework กับภาษาการเขียนโปรแกรมเพื่อตัดสินผู้ชนะของ React Native vs Flutter Battle กันเลยครับ
-React Native — JavaScript
React Native ใช้ JavaScript เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์ม Javascript เป็นภาษาโปรแกรมที่มีชื่อเสียงในหมู่นักพัฒนาเว็บ โดยจะใช้กับ React และเฟรมเวิร์ก JavaScript ที่รู้จักกันดี การใช้ React Native สามารถสร้างแอปพลิเคชันมือถือได้ไม่ยากหลังจากการฝึกฝนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ
-Flutter — Dart
Flutter นั้นใช้ภาษา Dart ซึ่งเปิดตัวโดย Google ในปี 2011 ถึงแม้ว่าจะเป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ยอดเยี่ยม Dart ก็ยังไม่ได้นิยมมากนักในตอนนี้โดย ไวยากรณ์ของ Dart นั้นค่อนข้างง่ายสำหรับนักพัฒนา Java และ JavaScript เนื่องจากแนวคิดมีความคล้ายคลึงกับ object-oriented concepts นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องง่ายมากๆสำหรับนักพัฒนาในการเรียนรู้ภาษา dart เนื่องจากมีเอกสารและตัวอย่างที่เข้าใจง่ายที่สามารถเข้าถึงได้ในเว็บไซต์หลักของ Dart อย่างเป็นทางการครับ
-คำตัดสิน
JavaScript เป็นภาษาที่เป็นที่รู้จักและใช้กันโดยนักพัฒนาเว็บส่วนใหญ่ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะนำ framework ของ React Native มาใช้ แต่ในทางกลับกัน Dart ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังเป็นที่รู้จักน้อยในชุมชนการพัฒนา ดังนั้นการต่อสู้ของ Flutter vs React Native จึงตัดสินให้ React Native ชนะไปในเรื่องนี้ครับ
2. UI Component และ API การพัฒนา
-React Native — Less Components
Framework ของ React Native เป็นเพียงการแสดง UI และ API เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ ในการเข้าถึงโมดูล Native อื่น ๆ นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับ Library ภายนอกด้วยสิ่งนี้จึงทำให้ React Native นั้นขึ้นอยู่กับ Library ของภายนอกที่มากเกินไป
-Flutter — Rich in Components
ในทางกลับกัน Flutter นั้นเต็มไปด้วยองค์ประกอบการเรนเดอร์ UI, Navigator, การเข้าถึง API ของอุปกรณ์ ส่วนประกอบที่หลากหลายนี้ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องใช้ Library ภายนอก หากคุณใช้ Framwork ของ Flutter คุณจะมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันมือถือ นอกจากนี้ยังมี Widget สำหรับ Material Design และ Cupertino ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถแสดงผล UI ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งบนแพลตฟอร์ม Android และ iOS
คำตัดสิน
เมื่อพูดถึงองค์ประกอบของ UI และการพัฒนา API นั้น React Native นั้นอาศัยไลบรารีของบุคคลที่สามมากเกินไปในขณะที่ Flutter นั้นมีองค์ประกอบมากมาย ดังนั้นระหว่าง React native vs Flutter. Flutter จึงเป็นผู้ชนะในหัวข้อนี่ครับ
3. Development Time
-React Native — Less Development Time
ในกรณีที่นักพัฒนามีความเชี่ยวชาญใน JavaScript แล้วมันง่ายมากที่จะใช้ทักษะเหล่านั้นในการพัฒนาแอพข้ามแพลตฟอร์ม React Native มีคุณสมบัติ hot reload คือการทำให้แอปพลิเคชันทำงานและสามารถแทรกไฟล์เวอร์ชันใหม่ที่คุณแก้ไขในขณะทำงานได้นอกจากนี้ในแง่ของการสนับสนุน IDE ผู้พัฒนาแอป Native React ได้รับอนุญาตให้ใช้ text processor หรือ IDE ที่ต้องการได้
-Flutter — More Development Time
Flutter ยังมีคุณสมบัติ hot-reload แต่อย่างไรก็ตามความซับซ้อนของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นก็เพิ่มขึ้นผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Flutter จะต้องเรียนรู้และยอมรับแนวคิดใหม่ ๆ ของ Flutter นอกจากนี้ Dart ไม่ใช่ภาษาโปรแกรมที่เป็นที่รู้จักกนักเมื่อเทียบกับ Java
คำตัดสิน
React Native เป็น Framework ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีมีการสนับสนุนชุมชนที่ยอดเยี่ยมเมื่อพูดถึง IDEs ที่รองรับ แต่ Flutter นั้นค่อนข้างใหม่ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงสิ่งนี้เราไม่สามารถพูดได้ว่า Flutter ช้ากว่า React Native Framwork ทั้งสองนั้นเร็วพอ ๆ กันและ กระแสของ Flutter กำลังตามทัน React Native ในไม่ช้าชุมชนของ Flutterในปัจุบันกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
5. การสนับสนุนชุมชน (Community)
เมื่อนักพัฒนาเริ่มแสดงความสนใจในเทคโนโลยีใดๆก็ตามและยอมรับในแนวทางการพัฒนา พวกเขาพวกเขาจะสร้างชุมชนเพื่อแบ่งปันข้อมูล ชุมชนที่มั่นคงช่วยให้นักพัฒนาในการเรียนรู้ซึ่งกันและกันและช่วยแก้ปัญหาที่แต่ละคนกำลังเจออยู่ ได้
-React Native
React Native ได้เปิดตัวในปี 2558 และได้รับความสนใจนับตั้งแต่นั้นมา มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งของวิศวกรของ React Native บน GitHub และนักพัฒนามีการใช้งานมากมายในปัจจุบันทำให้มีการสนับสนุน Comunity ที่ค่อนข้างใหญ่
-Flutter
ประมาณ 5 ถึง 6 ปีที่ผ่านมา Google ได้ปล่อย Flutter ออกมา แต่มันได้รับความสนใจอย่างมากอีกครั้งเมื่อ Google พูดถึงมันในปี 2560 ในระหว่างการประชุม ทุกวันนี้ชุมชนของ Flutter กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีจำนวนไม่เพียงพอสำหรับในการแก้ไขปัญหาทั่วไปใน Flutter ที่เราจะค้นหาได้จากในโลกอินเทอร์เน็ต แต่ในอนาคตคาดว่าต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
คำตัดสิน
ชุมชนและทรัพยากรของ React Native ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีเนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวเผยแพร่โดย Facebook อย่างไรก็ตาม Flutter นั้นยังค่อนข้างใหม่ แต่ในปัจจุบันพว่ามันมีจำนวนนักพัฒนาที่ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผู้ชนะในหัวข้อนี้จึงเป็นของ — React Native ไปครับ
สุดท้าย
Flutter และ React Native เวอร์ชั่นใหม่ๆนั้น สิ่งนี้นำเสนอการปรับปรุงต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ framework นั่นเป็นสาเหตุที่อัตราประสิทธิภาพของเฟรมเวิร์กเปลี่ยนแปลงตามการอัปเดตที่เพิ่มเติมขึ้นตามมาเรื่อยๆในปัจจุบันเนื่องจากความผันผวนของประสิทธิภาพเราจึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะดีกว่ากัน Flutter หรือ React Native แต่ Stackpythom หวังว่าบทความนี้จะช่วยตัดสินใจกับคนที่กำลังเลว่าจะเลือกศึกษาใช้งานตัวไหนดีระหว่าง Flutter และ React Native ไม่มากก็น้อยครับขอบคุณครับ
ก็จบไปแล้วนะครับกับอีกหนึ่งบทความจากเรา Stackpython ถ้าชื่อชอบบทความหรือคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Clap หรือ Share เป็นกำลังใจให้เราหน่อยนะครับ
ที่มา : Statesman
https://www.thedroidsonroids.com/blog/flutter-vs-react-native-what-to-choose-in-2020
https://www.appcentricsolutions.com/flutter-vs-react-native/
ติดตาม STACKPYTHON กันต่อ ได้ในช่องทางต่อไปนี้ได้เลยครับ
Instagram: stackpython
Facebook: stackpython
Website: stackpython.co
YouTube: stackpython