ใช้ pip ติดตั้ง packages ใน Python

อย่างแรกเราต้องทำความรู้จักกับ pip กันก่อน

pip คือตัวติดตั้ง packages เสริมใน python ซึ่ง packages เสริมพวกนี้จะมีคนสร้างไว้อยู่แล้วใน pypi.org เราสามารถนำมาใช้กับโปรเจคของเราได้โดยติดตั้ง packages ต่าง ๆ ผ่าน pip นั้นเองอย่างแรกก่อนที่จะติดตั้ง packages เสริมเราต้องมี pip ก่อนเรามาดูวิธีติดตั้ง pip กันเลยดีกว่า

ติดตั้ง pip

ในตัวของ python นั้นไม่ได้มี pip ติดมาด้วยเราต้องทำการติดตั้งมันขึ้นมาเองแต่ถ้าเราใช้ anaconda ก็ไม่ต้องห่วงมันจะมีมาให้อยู่แล้ว สำหรับการลง pip นั้นสามารถลงได้หลายวิธีสำหรับวิธีที่จะใช้ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง

ขั้นตอนแรกเราต้อง Dowload ไฟล์ get-pip จาก

https://bootstrap.pypa.io/get-pip.py

ถ้าใครขึ้นเป็นเว็บมาก็สามารถคลิกขวาแล้วบันทึกไฟล์ (Ctrl + s) ได้เลย

พอ Dowload เสร็จแล้วก็เข้าไปที่โฟลเดอร์ดาวน์โหลดและเปิด cmd ขึ้นมาสั่ง

python get-pip.py

สำหรับ mac มักจะมี python ติดมาอยู่กับเครื่องแล้วต้องใช้ sudo ด้วย

sudo python get-pip.py

แต่ถ้ามี easy_install ก็สามารถใช้ได้

sudo easy_install pip

สำหรับ Linux ก็จะใช้พวก apt-get หรือ yum ในการติดตั้งเอง

sudo apt-get install python3-pip
sudo yum install python3-pip

apt-get จะเป็นของพวก ubuntu, debian
yum ก็จะเป็น centOS, fedora

Upgrade pip

สำหรับคนที่มี pip อยู่แล้วแต่อาจจะยังไม่เวอร์ชั่นล่าสุดก็สามารถที่จะ upgrade มันได้เหมือนกันโดยใช้คำสั่ง

ใช้ Linux หรือ macOS

pip install -U pip

ใช้ Windows

python -m pip install -U pip

ถึงเวลาติดตั้ง packages แล้ววววว

เราจะใช้ pip ในการติดตั้ง packages ของ Python เนอะ โดยคำสั่งคือ

pip install [ชื่อ packages]

นี้คือคำสั่งในการติดตั้ง packages ถ้าเราต้องการติดตั้ง packages ชื่อว่า numpy

pip install numpy

แค่นี้ก็ได้ packages มาใช้งานได้แล้วแต่การ install แบบนี้มันจะเอา เวอร์ชั่นล่าสุดของ packages เรามาถ้าเราต้องการเวอร์ชั่นที่เก่ากว่านี้ก็สามารถกำหนดได้เหมือนกัน

pip install numpy = 1.16.0

แต่ ๆ ๆ ถ้าเราต้องการอัพเดทเวอร์ชั่นละทำอย่างไรเราสามารถใช้คำสั่ง install ได้เหมือนกันแค่เพิ่ม -U ไปเท่านั้น packages ก็จะอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ให้แล้วจร้า

pip install -U numpy

เราสามารถลง packages พร้อมกันหลายๆตัวได้โดยแค่พิมต่อๆกันไป เช่น

pip install numpy pygal pycparser

เมื่อเราลง packages ที่ต้องการเสร็จแล้วเราสามารถเรียกดู packages ทั้งหมดที่เราติดตั้งไปได้ด้วยคำสั่ง list

pip list 

packages ทั้งหมดก็จะแสดงดังรูป

ใช้คำสั่ง pip list

เราสามารถเรียกดู packages ทั้งหมดได้อีกคำสั่งคือคำสั่ง freeze

pip freeze

จะได้รูปแบบตามนี้

ใช้คำสั่ง pip freeze

เราจะเห็นว่าในแต่ละโปรเจคเนี้ยบ้างครั้งเราติดตั้ง packages ไว้เยอะมาก ๆ เลยถ้าให้มานั้งพิมพ์ลงใหม่ทั้งหมดคงไม่ไหว pip เองก็มีวิธีลง packages แบบเป็นไฟล์เหมือนกันโดยให้เราสร้างไฟล์ที่เป็น .txt โดยใช้คำสั่ง

pip freeze > (ชื่อไฟล์).txt

แค่นี้เราก็จะได้ไฟล์ .txt ที่บันทึก packages ของเราทั้งหมดไว้แล้วครับแล้วถ้าเราจะต้องไปลงเครื่องอื่นละต้องทำอย่างไร ก็แค่ดาวโหลดไฟล์ .txt ที่เราบันทึก packages ที่เราต้องการไว้แล้วก็สามารถลงได้แล้วครับ โดยใช้คำสั่ง

pip install -r (ชื่อไฟล์).txt

แค่นี้เราก็สามารถลง packages ทั้งหมดในที่เดี่ยวได้แล้วครับ

เมื่อติดตั้งแล้วก็ต้องมีลบ packages

คำสั่งลบ packages ของ pip นั้นไม่ยากเลยก็คือ uninstall

pip uninstall [ชื่อ packages]

ในทุกการลบระบบจะถามทุกรอบว่าต้องการจะลบจริงๆไหม เช่น

ถ้าเราจะลบก็ต้องพิมพ์ y แต่ถ้าเราไม่ต้องการให้มันถามแบบนี้เวลาเราลบก็ทำได้เหมือนกันครับแค่เพิ่มคำสั่งนิดหน่อย

pip uninstall -y [ชื่อ packages]

แค่นี้ระบบก็ไม่ถามแล้วจร้า แต่มันจะลบให้เลยนะเราต้องมั่นใจจริงๆว่าเราไม่ใช้ packages นี้แล้วต้องการลบมันจริงๆเพราะมันจิหายไปไวมาก

แล้วเราก็สามารถลบ packages พร้อมกันหลายๆตัวได้เหมือนกัน

pip uninstall [ชื่อ packages] [ชื่อ packages] [ชื่อ packages]

เรายังสามารถลบ packages โดยใช้ไฟล์ .txt ได้เหมือนกันครับโดยสั่งว่า

pip uninstall -r (ชื่อไฟล์).txt

หรือไม่ต้องการตอบ y ตลอดก็ใช้

pip uninstall -y -r (ชื่อไฟล์).txt

แค่นี้ก็สามารถลบ packages ที่ไม่ต้องการใช้ได้อย่างรวดเร็วแล้วครับ

ดูรายระเอียดแต่ละ packages

เราสามารถดูรายละเอียดของแต่ละ packages ได้โดยใช้คำสั่ง

pip show [ชื่อ packages]

มันก็จะโชว์รายระเอียดของ packages ทั้งหมดให้เรา

จบแล้วครับสำหรับการติดตั้งและการใช้งานเบื้องต้นของ pip หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับมีอะไรแนะนำสามารถคอมเม้นแนะนำมาได้เลยครับ